
รูปแบบดาวตกคืออะไร และใช้ในการเทรดอย่างไร
มีรูปแบบแท่งเทียน (candlestick patterns) มากมายในโลกคริปโตที่ช่วยให้นักเทรดทำกำไรได้สำเร็จ ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับรูปแบบ Shooting Star ว่ามันคืออะไร หน้าตาเป็นแบบไหน และจะนำไปใช้เทรดอย่างไร มาเริ่มกันเลย!
Shooting Star Pattern คืออะไร?
Shooting Star เป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวแบบขาลง (bearish reversal) candlestick pattern ที่เกิดขึ้นหลังจากราคาอยู่ในช่วงขาขึ้น และบ่งบอกว่าแรงซื้อเริ่มอ่อนกำลังลง มันเป็นสัญญาณเตือนว่าราคาอาจกลับตัวลง แต่ต้องรอการยืนยันด้วยแท่งเทียนขาลงถัดไปหรือสัญญาณจากอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคอื่น ๆ
แม้ Shooting Star จะเป็นสัญญาณขาลงโดยตัวมันเอง แต่ก็มีเวอร์ชันแบบขาขึ้นด้วย มาดูความแตกต่างกันแบบละเอียด
Bearish Shooting Star Pattern
เวอร์ชันขาลงของ Shooting Star เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนปิดต่ำกว่าเปิด ทำให้กลายเป็นแท่งแดง สิ่งนี้บ่งบอกว่าฝั่งขายไม่เพียงปฏิเสธแรงขึ้น แต่ยังสามารถกดราคาให้ต่ำกว่าจุดเปิดได้อีก ซึ่งเพิ่มแรงกดดันจากด้านบน ตัวแท่งแดงทำให้ลักษณะของแพทเทิร์นชัดเจนขึ้น เพราะเห็นได้ว่าพลังของตลาดเอียงไปทางหมีอย่างชัดเจน ในกรณีนี้เทรดเดอร์มักพิจารณาเปิด short หากแท่งถัดไปยืนยันการกลับตัว
Bullish Shooting Star Pattern
เวอร์ชันขาขึ้นของ Shooting Star นั้นพบได้ไม่บ่อย แต่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อแท่งเทียนปิดสูงกว่าราคาเปิด หรือก็คือเป็นแท่งเขียว รูปร่างเหมือน Shooting Star ทุกอย่าง แต่ในด้านความหมายใกล้เคียงกับรูปแบบ inverted hammer ซึ่งเกิดหลังจากขาลงและส่งสัญญาณการฟื้นตัว ในกรณีนี้ ฝั่งซื้อยังสามารถปิดแท่งให้สูงกว่าจุดเริ่มต้นเล็กน้อย แม้จะมีแรงขายที่ชัดเจนจากไส้เทียนบนยาว ดังนั้นสัญญาณนี้จึงถือว่าอ่อนกว่า และต้องการ การยืนยันที่เข้มงวด เช่น แท่งแดงแรงในวันถัดไป หรือการหลุดแนวรับสำคัญ

จะระบุ Shooting Star Pattern ได้อย่างไร?
คุณสามารถสังเกต Shooting Star ได้จากองค์ประกอบง่าย ๆ หลายข้อ ก่อนอื่น ต้องมีการขึ้นของราคาชัดเจนก่อนหน้า หากไม่มีเทรนด์ขาขึ้น แพทเทิร์นนี้ไม่มีความหมาย จากนั้นดูที่แท่งเทียน: ควรมีลำตัวเล็กอยู่ด้านล่างของกรอบราคา แทบไม่มีไส้ล่าง และมีไส้บนยาวอย่างน้อยสองเท่าของลำตัว ตามภาพด้านล่าง รูปร่างแบบนี้แสดงให้เห็นว่าราคาถูกดันขึ้นไปสูง แต่ถูกฝั่งขายลากกลับลงมายังจุดเปิดอย่างรวดเร็ว หากแท่งเทียนตรงตามลักษณะเหล่านี้และอยู่ใกล้จุดสูงสุดในรอบ ถือว่าเป็น Shooting Star

ใช้ Shooting Star Pattern ในการเทรดอย่างไร?
Shooting Star ใช้เป็นสัญญาณเริ่มต้นของการกลับตัวลงหลังจากราคาเพิ่มขึ้น หากแท่งนี้ปรากฏในบริเวณยอดท้องถิ่น เทรดเดอร์จะเริ่มมองหาการยืนยัน เช่น แท่งแดงแรงในวันถัดไป ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น หรืออินดิเคเตอร์กลับตัวอย่าง RSI, MACD หรือ stochastics หากสัญญาณยืนยันเกิดขึ้น คุณสามารถพิจารณาเปิด short ได้: นักเทรดสาย aggressive จะเข้าเมื่อราคาหลุด Low ของ Shooting Star ส่วนสาย conservative จะรอให้ราคา “ปิดต่ำกว่า” ก่อนค่อยเข้า Stop-loss มักวางเหนือไส้เทียนบนของแพทเทิร์น
รูปแบบนี้เหมาะมากสำหรับ swing traders เพราะช่วยระบุจุดกลับตัวในช่วงการแกว่งตัวระยะกลาง รวมถึง day traders ที่ต้องการเฝ้าดูจุดสูงสุดท้องถิ่นที่แรงซื้อเริ่มอ่อน Shooting Star ยังสามารถใช้เป็นสัญญาณเพื่อล็อกกำไรในฝั่ง long หากเกิดขึ้นบริเวณแนวต้านสำคัญ เพราะมักเตือนถึงการพักตัวในระยะสั้นและการสูญเสียโมเมนตัมฝั่งขึ้น

ข้อดีและข้อเสียของ Shooting Star Pattern
เพื่อความสะดวก เราได้จัดทำตารางสรุปข้อดี–ข้อเสียที่สำคัญที่สุดของ Shooting Star ไว้ที่นี่:
| ข้อดี | ข้อเสีย | |
|---|---|---|
| ดูรูปร่างแล้วจำได้ง่าย — ลำตัวเล็ก ไส้บนยาว | ข้อเสียต้องมีสัญญาณอื่นยืนยัน เพราะแพทเทิร์นนี้ลำพังไม่แม่นยำพอ | |
| แสดงให้เห็นว่าแรงซื้อเริ่มอ่อนลงและโมเมนตัมเริ่มกลับทิศ | ข้อเสียในขาขึ้นที่แข็งแกร่ง แพทเทิร์นอาจถูกเพิกเฉยได้ | |
| ใช้ได้ทุกตลาดและหลาย Timeframe | ข้อเสียความแม่นยำต่ำใน Timeframe เล็กเพราะมี Noise สูง | |
| ให้โซน stop-loss ชัดเจน (เหนือไส้เทียนบน) | ข้อเสียต้องวิเคราะห์ปริมาณ แนวรับต้าน และเทรนด์ร่วมด้วย | |
| ช่วยปิด long หรือเก็บกำไรได้ทันเวลา | ข้อเสียใช้ได้ผลน้อยในสินทรัพย์ที่สภาพคล่องต่ำ ไส้เทียนมักเว่อร์ |
คุณเคยเจอ Shooting Star ไหม? เคยใช้หรือเปล่า? ผลลัพธ์เป็นยังไง? มาแชร์ประสบการณ์กันด้านล่างได้เลย!
ให้คะแนนบทความ




ความคิดเห็น
0
คุณต้องเข้าสู่ระบบเพื่อโพสต์ความคิดเห็น